กีฬายิมนาสติก กติกาพื้นฐาน ประโยชน์และประวัติ
ยิมนาสติกจัดเป็นกีฬาอีกชนิดที่ได้รับความนิยมจากคนเล่นพอสมควร โดยเฉพาะบรรดาเด็กทั้งหลายที่ใครอยากเริ่มหัดเล่นกีฬาชนิดนี้จำเป็นต้องเริ่มกันตั้งแต่เด็กๆ ไม่อย่างนั้นร่างกายอาจไม่อ่อนตัวจนไม่สามารถทำท่าทางต่างๆ ได้ตามกำหนด กีฬาประเภทนี้ถือเป็นกีฬาเน้นความสวยงามของท่วงท่า มีศิลปะในการสร้างท่าทางต่างๆ ให้ออกมาได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงการแต่งตัวก็ช่วยส่งให้ยิมนาสติกน่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะประเภทหญิงมีการแต่งตัวสวยงามมากกว่าประเภทชาย
ประวัติกีฬายิมนาสติก
มีความเชื่อกันว่าชาวกรีกคือชนชาติแรกที่ให้ความสนใจในเรื่องของการเล่นกีฬายิมนาสติก พร้อมกันนี้ยังเป็นผู้ตั้งชื่อกีฬาชนิดนี้ด้วย ชาวสปาร์ตาได้ทำการฝึกยิมนาสติกให้กับบรรดาเยาวชนของพวกเขา ก่อนชาวโรมันนำไปดัดแปลงให้เป็นกิจกรรมในการฝึกทหาร พอทั้งอาณาจักรกรีกกับโรมันเสื่อมลงทำให้ยิมนาสติกเองก็ค่อยๆ ลดความนิยมลงไปด้วย กระทั่งยุคกลางยิมนาสติกได้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งพร้อมขยายไปยังประเทศต่างๆ ทั่วยุโรป ปี 2319 Johan Basedow ชาวเยอรมันได้มีการบรรจุวิชาการออกกำลังกายแบบยิมนาสติกในหลักสูตรโรงเรียนแห่งหนึ่งของเยอรมัน กระทั่งนักศึกษาชาวเยอรมันนามว่า Guts Muths มีการบรรจุวิชายิมนาสติกเข้าสอนที่โรงเรียน Prussian ในบ้านเกิดของเขา มีการเขียนหนังสือเกี่ยวกับยิมนาสติกถือเป็นคนแรกที่เขียนเรื่องราวเหล่านี้ กระทั่ง Friedrich Jahn ชาวเยอรมัน ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งยิมนาสติก ก่อตั้งสถานที่ฝึกยิมนาสติกพร้อมคิดอุปกรณ์ต่างๆ เช่น บาร์เดี่ยว, บาร์คู่, ม้ากระโดด, ม้าขวาง จากนั้นกีฬายิมนาสติกจึงค่อยๆ พัฒนาเรื่อยมาจนได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเราเองก็ถือว่ามีเยาวชนจำนวนมากให้ความสนใจในกีฬาประเภทนี้กันพอสมควรเลยทีเดียว
กติกาพื้นฐานการเล่นกีฬายิมนาสติก
จริงแล้วกีฬายิมนาสติกจะมีกติกายิบย่อยค่อนข้างเยอะ เนื่องจากมีหลายประเภทการแข่งขันแต่เอาเป็นว่าจะอธิบายกติกาคร่าวๆ ให้ได้เข้าใจกันเพื่อเวลาดูการแข่งขันแล้วจะเข้าใจกีฬาชนิดนี้มากขึ้น
- การแข่งขันแบ่งออกเป็นประเภทชายและหญิง มีอุปกรณ์ต่างกัน ผู้เข้าแข่งขันต้องทำการแสดงท่าภาคบังคับและท่าภาคสมัครใจกับอุปกรณ์ที่ตนเองได้ลงทำการแข่งขันเอาไว้ การแข่งขันแบ่งออกเป็นประเภทเดี่ยว ประเภททีม และประเภทเดี่ยวผสม
- อุปกรณ์ชายประกอบด้วย ห่วงนิ่ง, บาร์เดี่ยว, บาร์คู่, ม้ากระโดด, ม้าหู
- อุปกรณ์หญิงประกอบด้วย บาร์ต่างระดับ, ราวทรงตัว, ม้ากระโดด
- กรรมการมีทั้งหมด 4 คน มีกรรมการผู้ชี้ขาด 1 คน แต่ถ้าเป็นชายเดี่ยวรอบชิงชนะเลิศจะมีกรรมการชี้ขาด 2 คน
- การให้คะแนนคิดจากกรรมการ 4 คน ตัดคะแนนสูงกับต่ำสุดออก นำคะแนนกลางจากกรรมการ 2 คน มาหาค่าเฉลี่ยให้เป็นคะแนนของผู้แข่งขัน
- ประเภททีม แต่ละทีมมี 6 คน นำคะแนน 5 คน มารวมกัน ชายสูงสุด 600 คะแนน หญิงสูงสุด 400 คะแนน
- ประเภทบุคคลรวมอุปกรณ์ จะนำคะแนนจากการแข่งขันทุกอุปกรณ์รวมสูงสุดจากประเภททีม 3 คน มาแข่งรอบสุดท้ายด้วย คะแนนรอบนี้รวมกับครึ่งหนึ่งที่ได้จากประเภททีม ชายสูงสุด 120 คะแนน หญิงสูงสุด 80 คะแนน
- ประเภทอุปกรณ์แยกบุคคล เข้าแข่งขัน 6 คน คัดคนที่คะแนนสูงสุดแต่ละอุปกรณ์จากการแข่งประเภททีมมาแข่งรอบสุดท้าย คะแนนที่ได้จะรวมกับครึ่งหนึ่งที่ทำได้ในอุปกรณ์นั้นๆ จากการแข่งขันประเภททีมแต่ละคน ชายหญิงสูงสุด 20 คะแนน
- มีอีกประเภทคือการแข่งขันยิมนาสติกลีลา มีอุปกรณ์อย่าง ลูกบอล, ริบบิ้น, ห่วง, ไม้โยน และเชือก เล่นประกอบดนตรีให้มีความเหมาะสม เข้ากัน น่าสนใจ
ประโยชน์จากการเล่นกีฬายิมนาสติก
- สร้างความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อของร่างกายได้ในทุกสัดส่วน เนื่องจากการเล่นกีฬาประเภทนี้ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อคือสิ่งสำคัญมาก
- ฝึกการเคลื่อนไหวให้เกิดความคล่องแคล่ว ว่องไว รวมถึงยังช่วยให้มีท่าทางที่สง่าผ่าเผย
- ฝึกความกล้าให้กับคนเล่นทุกคนเนื่องจากแต่ละถ้าของการเล่นยิมนาสติกถือเป็นท่าที่ต้องใช้การฝึกฝน คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถทำได้แน่นอน
- มีความอดทน ต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ อย่างไม่ย่อท้อเพราะต้องฝึกหนักกว่าจะสามารถกลายเป็นนักยิมนาสติกชื่อดังของโลกได้
- ฝึกสมาธิในการทำสิ่งต่างๆ ให้ดีที่สุด เพราะการเล่นยิมนาสติกหากขาดสมาธิแม้แต่วินาทีเดียวอาจทำให้เกิดอันตรายกับคนเล่นได้ทุกเมื่อ