ปิศาจแดงอาละวาดหลอนโหดฝังนักบุญขวัญกระเจิงตอกประตู 9 ดอก

เมื่อพญามัจจุราชแห่งเวทีพรีเมียร์ ได้ฟื้นคืนชีพด้วยการกระหน่ำยิงแบบไม่ยั้งใส่นักบุญแบบดับคาบ้านแบบย่อยยับ ความเสียหายอย่างหนักหน่วงของนักบุญเซาแธมป์ตันเกิดขึ้นจากการที่ อเล็กซานเดร ยานเควิทซ์ ผู้เล่นของเซาแธมป์ตัน ได้เข้าไปทำฟาวล์หนักแทงเข่าใส่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ (นึกว่าอยู่เวทีมวยลุมพินี) เป็นสาเหตุทำให้โดนใบแดงไล่ออกจากสนามตั้งแต่เริ่มเกม (1.20นาที) ความผิดพลาดครั้งนี้ได้แต่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมไป และแล้วความเลวร้ายก็เริ่มมาเยือนนักบุญทันที การบุกอย่างหนักหน่วงของฝั่งเจ้าถิ่น การกระทุ้งเพื่อหวังในการทำประตูขึ้นนำ เพื่อปลดล็อคศักยภาพทั้งหมดของนักเตะปิศาจแดงก็ได้เกิดขึ้น อารอน วาน-บิสซาก้า ยิงเข้าไปในนาทีที่ 18 จากการส่งของ ลุค ชอว์ การเริงระบำของปิศาจร้ายบนดินแดน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สร้างความหลอกหลอนขึ้นทันทีที่มีประตูแรก เพราะการยิงประตูนั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเสมือนว่าสั่งได้ การเล่นครั้งนี้บอกได้เลยว่า แรชฟอร์ด คือความภาคภูมิใจของชาวปิศาจแดงจริงๆ ความเร็วและทักษะการลากเลื้อยที่ส่งผลอย่างชัดเจนในเกมบุกสร้างความน่ากลัว และ ยังประกอบไปด้วยการยิ่งที่เฉียบคมใช้โอกาสไม่เปลือง ซัด 1 ประตูในเกมนี้ทำให้มีประตูมากกว่า เดอะ คิง คันโตน่า ตำนานของสโมสรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการสตาร์ทที่ต่อเนื่องของการเริงระบำ ประตูที่ 3 แม้ว่าจะเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของเบดนาเร็ก และ จบครึ่งแรกที่ประตูที่ 4 จาก คาวานี

แม้ว่าการเล่นนักบุญจะไม่เลวร้าย ความฮึดสู้ยังคงอยู่เพื่อที่จะเจาะไข่ให้แตก แม้ว่าจะเข้าตาข่ายไปแล้วแต่ก็ไม่ถูกนับเป็นประตู และถูกเหยียบย่ำให้ลึกลงไปอีกด้วยหนีห่างออกไปอีกจาก อองโตนี มาร์เชียล เป็น 5 ประตู และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ในประตูที่ 6 และความพังพินาศของนักบุญยังไม่เพียงพอเพราะต้องเหลือเพียงแค่ 9 คน จากจังหวะก้ำกึ่งจนต้องเช็คด้วย VAR จากที่เซาธ์แฮมป์ตัน จะรอดพ้นจากการเสียจุดโทษกลับกลายเป็นโดนใบแดง บรูโน เฟอร์นันเดส รับหน้าที่สังหารจุดโทษ เป็น 7 ประตู และ มาร์เชียล กับ เจมส์ เป็นประตูที่ 8 กับ 9 ผลบนสกอร์บอร์ดไม่ใช่เรื่องโกหก การเปิดบ้านยำเซาแธมป์ตันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง สงครามเกมลูกหนังไม่สามารถจบลงด้วยความอ่อนโยนได้ หากต้องการที่จะขึ้นเป็นผู้นำ ถ้าย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เซาแธมป์ตันคือทีมที่ยำลิเวอร์พูลเอาไว้แบบเละเทะเช่นเดียวกัน ภาพรวมถือว่าแมนยูทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม กดดันแมนซิตี้ที่จะลงเตะกับทีมลิเวอร์พูลทันที