TEL : 06-234567-55 ถึง 59 LINE :@sc.club

กีฬารักบี้ ประวัติ ประโยชน์และกติกาพื้นฐานในการเล่น

rugby-sbobet-club

หากนึกถึงกีฬาที่ไม่ได้ถึงกับใช้ความรุนแรงแต่เน้นเรื่องของการเข้าปะทะของร่างกาย กีฬารักบี้ถือเป็นกีฬาอันดับต้นๆ ที่คนทั่วไปนึกถึงเลยก็ว่าได้ นึกถึงพื้นฐานของกีฬาชนิดนี้ที่คนต้องเข้าปะทะกันทำให้เรามักเห็นนักกีฬารักบี้ตัวใหญ่ ตัวโตกันแบบล่ำบึ้กไปเลย ถือเป็นกีฬาอีกชนิดที่ได้รับความนิยมไม่น้อย แม้อาจไม่ได้เทียบเท่ากับกีฬามหาชนอย่างฟุตบอล บาสเกตบอล แต่ก็นับว่าน่าสนใจในการเล่นไม่น้อย

ประวัติกีฬารักบี้

รักบี้ฟุตบอลหรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า รักบี้ เป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่มีต้นกำเนิดมาจากโรงเรียนรักบี้ ตั้งอยู่ในเมืองรักบี้ เขตวอร์วิกเชียร์ อังกฤษ มีการเริ่มเล่นกีฬาชนิดนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1826 โดยตอนนั้นเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลภายในของโรงเรียนรักบี้ มีผู้เล่นคนหนึ่งชื่อว่า วิลเลี่ยม เว็บบ์ เอลลิส ทำผิดกฎการแข่งขันที่วางเอาไว้นั่นคือการอุ้มลูกบอลแล้ววิ่งไปข้างหน้าทั้งๆ ที่ตัวเขาเองไม่ได้อยู่ในตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ใช้มือเล่นได้แถมยังวิ่งตรงไปจนถึงประตูฝ่ายตรงข้าม ไม่รู้ว่าการกระทำของเขานั้นจงใจหรือไม่แต่หลังเหตุการณ์ดังกล่าวสิ่งนี้ถูกพูดถึงในวงกว้าง กระทั่งการกระทำที่ว่าค่อยๆ แพร่หลายไปในหลายโรงเรียนของอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาเด็กนักเรียนจากเคมบริดจ์ ได้นำเอาวิธีการเล่นของเอลลิสไปจัดการแข่งขันใหม่เสียเลยพร้อมให้ชื่อกีฬาที่จัดการแข่งขันนี้ว่า รักบี้เกมส์ หลังจากนั้นกีฬารักบี้จึงค่อยๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาเพื่อให้เหมาะสมเรื่อยมา พร้อมกันนี้รักบี้ยังถือเป็นกีฬาต้นกำเนิดของอเมริกันฟุตบอลและแคนาเดียนฟุตบอลด้วย

sbobet-club-rugby

กติกาพื้นฐานการเล่นรักบี้

  • ขนาดสนามไม่เกิน 100 ม. กว้างไม่เกิน 70 ม. เขตประตูยาวไม่เกิน 22 ม.
  • ลูกบอลมีลักษณะรูปไข่ประกอบกันด้วยวัสดุ 4 ชิ้น ยาว 280 – 300 มม. วัสดุทำจากหนังหรือวัสดุสังเคราะห์คล้ายหนังง่ายต่อการโยนส่งและรับลูก
  • มีผู้เล่นฝั่งละ 15 คน อนุญาตให้มีน้อยกว่าได้แต่ต้องมีผู้เล่นในสกรัมอย่างน้อย 5 คน ตลอดเกม หากมีผู้เล่นบาดเจ็บจะเปลี่ยนได้ชั่วคราวแต่กรณีเปลี่ยนถาวรจะกลับไปลงเล่นไม่ได้อีก
  • เวลาในการแข่งขันแต่ละเกมต้องไม่เกิน 80 นาที บวกกับเวลาพิเศษหรือเวลาที่เสียไป แบ่งเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 40 นาทีไม่เกิน เวลาพักครึ่งไม่เกิน 10 นาที เวลาพิเศษของการเล่นรวมแล้วอาจมากกว่า 80 นาที
  • เตะลูกกึ่งกลางสนามไปให้ถึงเส้น 10 ม. ของฝ่ายตรงข้ามเมื่อตอนเริ่มครึ่งแรกและครึ่งหลัง วิธีเล่นในสนามคือเล่นด้วยการจับลูก วิ่งพร้อมลูก ส่งลูกให้คนอื่นเล่น ส่งลูกด้วยการเตะลูก แย่งลูก จับคู่ต่อสู้ สกรัม รัค แถวทุ่ม มอล เอาลูกวางเขตประตูฝ่ายตรงข้าม แต่การเล่นต้องห้ามผิดกติกา หากฝ่ายไหนทำคะแนนได้อีกฝ่ายจะมาตั้งเตะลูกใหม่ หากฝ่ายเริ่มเตะเข้าไปยังเส้น 10 ม. ฝ่ายตรงข้ามแล้วฝ่ายรับไม่เอาลูกออกมาเล่นโดยการกดลูกในเขตประตูตนเอง ให้ทำสกรัมกลางสนามแล้วฝ่ายตรงข้ามใส่ลูกสกรัม
  • หากวางทรัยได้ 5 คะแนน เตะลูกเข้าประตูหลังการวางทรัยได้อีก 2 คะแนน ถือว่าได้ 1 ประตู เตะลูกโทษเข้าได้ 3 คะแนน เตะลูกพร้อมดร็อปคิกได้ 3 คะแนน แต่ถ้าเตะลูกฟรีคิกแม้ยิงเข้าก็ไม่ได้คะแนน

ประโยชน์ที่ได้จากการเล่นรักบี้

  • ได้ความแข็งแกร่งไปแบบเต็มๆ เนื่องจากการเล่นกีฬาประเภทนี้ต้องอาศัยความแข็งแกร่งของคนเล่นสูงมาก หากใครไม่มีความแข็งแกร่งมากพอคงยากหากคิดประสบความสำเร็จดังที่ตั้งใจเอาไว้
  • มีปฏิภาณไหวพริบในการคิดแบบรวดเร็ว ว่าควรต้องเลือกส่งหรือทำอย่างไรเพื่อโอกาสในการเข้าถึงประตูฝ่ายตรงข้ามมากที่สุด
  • รู้จักการเล่นเป็นทีม เพราะรักบี้แม้ร่างกายแข็งแกร่งมากขนาดไหนทว่ามันไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยตัวคนเพียงคนเดียวแน่นอน ดังนั้นต้องเกิดความสามัคคีซึ่งกันจึงจะทำให้การเล่นกีฬาชนิดนี้ประสบความสำเร็จ
  • ได้เพื่อนใหม่ ได้เจอกับคนที่ยังไม่คุ้นเคยหากว่าได้เล่นในการแข่งขันบ่อยๆ
  • ฝึกความอดทน เพราะรักบี้นอกจากพละกำลังที่ต้องดีแล้วยังต้องอดทนต่อการเจ็บหรือความรุนแรงบางอย่างที่คาดไม่ถึงด้วย หากผ่านไปได้จะยิ่งอดทนมากขึ้น