กีฬาเทเบิ้ลเทนนิส ประวัติ กติกาพื้นฐานและ มารยาทของการเล่น
เทเบิ้ลเทนนิสหรือที่เราคุ้นเคยกันดีว่ามันคือกีฬาปิงปอง เป็นกีฬาอีกชนิดที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกมากๆ อย่างประเทศไทยของเราเองก็มีการจัดการแข่งขันกีฬาประเภทนี้กันอยู่บ่อยครั้ง หรือแม้แต่ตามสถานศึกษาเรามักจะเห็นหลายๆ โรงเรียนเปิดสอนให้เป็นวิชาเรียนหรือจัดการแข่งขันภายในกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งมีหลายคนเล่นกีฬาชนิดนี้อย่างจริงจังจนก้าวไปสู่การแข่งขันระดับประเทศหรือระดับชาติเยอะมาก เป็นกีฬาอีกชนิดที่สนุกสนานมากเลยทีเดียว
ประวัติการแข่งขันกีฬาเทเบิ้ลเทนนิส
กีฬาเทเบิ้ลเทนนิสเริ่มต้นครั้งแรกเมื่อปี 1890 ในประเทศอังกฤษ เมื่อก่อนนี้อุปกรณ์ที่ใช้เล่นทำมาจากไม้หุ้มหนังสัตว์ ลักษณะใกล้เคียงกับไม้ปิงปองในยุคปัจจุบัน ส่วนลูกที่ใช้ในการตีเป็นลูกเซลลูลอยด์ ทำจากพลาสติกกึ่งสังเคราะห์ สังเกตเวลาลูกตกกระทบกับโต๊ะเสียงจะดัง ปิ๊ก ป๊อก ทำให้เราคุ้นชินกับคำว่ากีฬาปิงปอง เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมแพร่หลายมาเรื่อยๆ ในแถบยุโรป กระทั่งปี 1900 เริ่มมีการเปลี่ยนมาใช้ไม้ปิงปองติดยางเม็ดแทนหนังสัตว์มากขึ้น การเล่นจึงเปลี่ยนมาเป็นแบบโฟร์แฮนด์กับแบ็คแฮนด์ แต่การจับไม้ยังคงได้รับความนิยมในแบบยุโรปดั้งเดิม ปี 1922 มีบริษัทจดทะเบียนการค้าว่าปิงปอง จึงทำให้กีฬาชนิดนี้เปลี่ยนชื่อเป็นเทเบิ้ลเทนนิส ปี 1926 มีการก่อตั้งสหพันธ์เทเบิ้ลเทนนิสนานาชาติในกรุงลอนดอนเมื่อเดือนธันวาคม พร้อมจัดการแข่งขันเทเบิ้ลเทนนิสระดับโลกขึ้นครั้งแรก
พอปี 1950 ญี่ปุ่นเริ่มให้ความสนใจกีฬาประเภทนี้พร้อมปรับปรุงวิธีการเล่นให้เน้นการตีลูกอย่างแม่นยำ หนักหน่วง ใช้จังหวะการเต้นปลายเท้า พร้อมกันนี้พวกเขาได้เริ่มต้นการจับไม้แบบปากกา พร้อมพัฒนาไม้ปิงปองด้วยการใช้ยางเม็ดสอดไส้ด้วยฟองน้ำแล้วกีฬาเทเบิ้ลเทนนิสจึงค่อยๆ พัฒนากันมาเรื่อยๆ กระทั่งเป็นแบบในปัจจุบันที่เราเห็นกันนั่นเอง
กติกาพื้นฐานของการเล่นเทเบิ้ลเทนนิส
- โต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว 9 ฟุต กว้าง 5 ฟุต สูงจากพื้นราว 2.6 ฟุต ตรงกลางมีเนตขึงตึงด้วยเชือกผูกปลายยอดเสาตั้งตรงจากพื้นโต๊ะราว 6 นิ้ว ลูกเทเบิ้ลเทนนิสเส้นผ่าศูนย์กลาง 40 มม. หนัก 2.7 ก. ทำด้วยเซลลูลอยด์หรือพลาสติกใกล้เคียงกัน จะสีขาวหรือส้มก็ได้
- การส่งลูกต้องโยนในอากาศลอยไม่น้อยกว่า 16 ซม.
- ลูกปิงปองต้องเด้งพื้นฝ่ายตัวเองก่อนหนึ่งครั้งจึงจะตีข้ามไปได้ หากลูกยังไม่เด้งพื้นแล้วตีถือว่าผิดกติกาและเสียคะแนน
- การนับคะแนนหากใครทำได้ 11 แต้มก่อนชนะ กรณีทำได้ 10 คะแนนเท่ากันต้องมีการ deuce จนกว่าจะเอาชนะได้ 2 แต้ม เปลี่ยนเสิร์ฟทุกๆ 2 คะแนน
- การแข่งขันประเภททีมจะมี 2 แบบ คือ Swaythling Cup เล่นครั้งละ 3 คน กับ Corbillon Cup เล่นครั้งละ 2-4 คน
- การตัดสินของกรรมการควบคุมการแข่งขันถือเป็นที่สิ้นสุด
ประโยชน์ของการเล่นเทเบิ้ลเทนนิส
- ได้ความคล่องแคล่ว รวดเร็วในทุกสัดส่วนของร่างกายไม่ว่าจะเป็นสายตาที่ต้องมองตลอดเวลาว่าลูกมาทางไหน สมองที่ต้องคิดว่าจะตีโต้กลับไปอย่างไร การตวัดมือที่ต้องรวดเร็ว การเคลื่อนที่ของเขาที่ต้องสัมพันธ์กัน ทุกอย่างต้องดูว่องไหวไปหมดจริงๆ
- ได้ฝึกสมาธิกับตนเองเยอะมากเพราะกีฬาประเภทนี้จำเป็นต้องมีสมาธิในการเล่นสูง หากหลุดแม้แต่นิดเดียวสามารถแพ้ได้เลย
- ได้พละกำลังของแขนกับข้อมือดีมากๆ เนื่องจากการเล่นสิ่งเหล่านี้จะต้องใช้กำลังแขนกับข้อมือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
มารยาทพื้นฐานของการเล่นเทเบิ้ลเทนนิส
- มีน้ำใจนักกีฬาต่อคู่แข่งขันตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเกม
- เคารพการตัดสินของกรรมการพร้อมแสดงกิริยาอย่างเหมาะสมตลอดเกมการแข่งขัน
- ไม่ตั้งใจทำร้ายคู่แข่งขันอย่างตั้งใจด้วยวิธีการใดๆ ก็ตามที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อคู่แข่งขัน
- ควบคุมอารมณ์การเล่นของตนเองให้ดีอยู่เสมอตลอดการแข่งขัน
- ไม่พูดจาหยาบคายหรือแสดงท่าทางถากถางดูถูกคู่แข่งข้นตลอดเกม
- ไม่นำเอาไม้กระแทกโต๊ะ กระแทกพื้น หรือเหวี่ยงไม้ทิ้งในการแสดงกริยาแบบไม่สุภาพ
- เมื่อเกมการแข่งขันจบลงต้องมีการจับมือกับคู่แข่งขันทุกครั้งอย่างรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย รวมถึงแสดงกริยาขอบคุณกรรมการทุกคนที่ทำหน้าที่ตัดสินในเกมนี้
- ช่วยเหลือผู้แข่งขันฝ่ายตรงข้ามกรณีเกิดอาการบาดเจ็บหรือมีปัญหา