PSG เฉือนชนะเสือใต้คาบ้านล้างแค้นมหากาพย์แชมป์เปี้ยนลีกปีที่แล้ว

ในรอบชิงชนะเลิศเมื่อแปดเดือนที่แล้วยักษ์ใหญ่ของเยอรมันทำให้ชาวปารีสเลือดอาบภายใน 30 นาที 2-0 การพบกันในครั้งนี้เป็นการล้างตาอีกครั้งหนึ่งของ  KYLIAN MBAPPE เพราะเป็นการเจอกันในครั้งที่ 2ในฐานะทีม PSG ของตัวเขาเอง ซึ่งการพบกันครั้งนี้ ขุมกำลังของเสือใต้นั้นจะลดลงไปเนื่องจากจะไม่มี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าตัวหลักของทีมที่ได้รับอาการบาดเจ็บจากการรับใช้ทีมชาติโปแลนด์ และยังมีผู้เล่นรายอื่นๆไม่ว่าจะเป็น โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ ดั๊กลาส กอสต้า และ ล่าสุด แซร์ช นาบรี้ ที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เรียกได้ว่ากองกำลังของทีมลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด การทดสอบ Covid-19 และอาการบาดเจ็บก่อนการแข่งขันสร้างความเสียหายให้กับทั้งสองทีมเป็นอย่างมาก

เริ่มต้นเกมเพียงแค่ 2 นาที ก็มีจังหวะให้ได้ลุ้น จากการเปิดมุมของ โจชัว คิมมิช เปิดมาเสาแรกให้ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง ขึ้นโหม่งแต่บอลหลุดข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

การลงโทษเสือใต้ของเปแอสเชมาไวเป็นอย่างมาก เพียงแค่ไม่นานเท่าไรจังหวะสวนกลับของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ดิ มาเรีย ไหลบอลเข้ากลางส่งให้ เนย์มาร์ พาตะลุยเดี่ยวเข้าไปก่อนที่จะจ่ายบอลออกไปทางขวาให้ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ซัดเต็มข้อ นอยเออร์ ซองแตกความแรงบอลปลิ้นลอดขาเข้าประตู PSG ขึ้นนำไป 1-0

การเตะบอลในเกมนี้ค่อนข้างสนุกเป็นผลัดกันรุกรับอย่างสุดมันส์ ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง

ในนาทีที่ 7 โจชัว คิมมิช ซัดฟรีคิกไปติดกำแพง ดาวิด อลาบา แต่ซัดซ้ำ แต่เหินข้ามคานแบบไม่ต้องลุ้น

ยังคงโหมบุกอย่างต่อเนื่องสำหรับ เสือใต้ ในนาทีที่ 10 เลออน โกเร็ตซ์ก้า โขกบอลส่งต่อให้โธมัส มุลเลอร์ ซัดด้วยขวาแต่บอลพุ่งไปเข้ามือ นาวาส

การสวนกลับของ PSG ยังคงน่ากลัวเสมอเมื่อ เนย์มาร์ แทงทะลุให้ เอ็มบั๊ปเป้ ไหลเข้ากลางให้ ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ แต่ว่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน

สถานการณ์ของเสื้อใต้เป็นรองหนักเข้าไปอีก ในนาทีที่ 28 เสียประตูที่ 2 ให้กลับปารีสในจังหวะที่เนย์มาร์จ่ายบอลตัดแนวรับให้ มาร์กินญอสจับบอลด้วยซ้ายซัดด้วยเท้าขวา นำห่างเป็น 2-0 ทันทีแต่จังหวะนี้ มาร์กินญอส ที่โชว์สเต็ปการยิงต้องเปลี่ยนตัวออกเพราะเกิดอาการบาดเจ็บ เอาอันเดรเอร์เรร่า ลงมาเล่นแทน

หลังจากนั้นเกมบุกของเสือใต้ได้เข้มข้นขึ้นอีก  เพราะตีประตูไข่แตกจนได้ จากจังหวะที่ คิมมิช ปาดออกขวาให้ แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ โยนครอสเข้าไปที่หน้าประตูให้ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง เทกตัวขึ้นโขกบอลหนีมือ นาวาส ตามเป็น 1-2 จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

นาทีที่ 52 แปเอสเชเกือบนำห่างอีกครั้งด้วยการเลี้ยงแหวกของ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่ลุยไปติดแนวรับ และ เนย์มาร์ฉกบอลไปซัดแต่ดันติดตัวกับ นอยเออร์

เมื่อเกมเข้าสู่ช่วงหนึ่งชั่วโมง ความพยายามของ “เสือใต้” มาประสบผลสำเร็จไล่ตีเสมอ 2-2 จนได้ โจชัว คิมมิช เปิดบอลโค้งเข้าหัวให้ โธมัส มุลเลอร์ โขกบอลตกพื้นเข้าไปอย่างสวยงาม

ผ่านมาได้ 8 นาทีการต่อสู้กันบนพื้นสนามหญ้ายังคงต่อเนื่องอยู่ เปแอสเช นำห่างเป็น 3-2 อีกครั้งจากจังหวะสวนกลับของ อังเคล ดิ มาเรีย จ่ายบอลแทงทะลุไปทางซ้ายให้กับ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ โยกหลบซัดบอลแฉลบ บัวเต็งเข้าประตูไปตุงตาข่าย

ในช่วงเวลาที่เหลือเสือใต้พยายามบุกอย่างหนักหน่วง แต่เกมรุกที่ไร้ซึ่งความเด็ดขาดอาจจะเพราะไม่มีตัวจบสกอร์ที่แน่นอนทำให้ พ่ายปารีสไปในสกอร์ 3-2 แบบสนุกสนานเพื่อสร้างความเมามันส์ในการแข่งขันรอบสองวันที่ 13 เมษายน