TEL : 06-234567-55 ถึง 59 LINE :@sc.club

ประวัติ เดวิด เบคแฮม (David Robert Joseph Beckham)

เดวิด รอเบิร์ต โจเซฟ เบคแฮม (David Robert Joseph Beckham) อดีตนักเตะชาวอังกฤษ ก่อนหน้านี้เคยเล่นให้กับทีม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, เรอัลมาดริด, เอซี มิลาน, ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง, แอลเอ กาแล็กซี่ และเพรสตันนอร์ทเอนด์ ล้วนเป็นทีมใหญ่ทั้งหมดและยังเป็นนักเตะทีมชาติอังกฤษ ในปี ค.ศ 1996 – 2009 อีกด้วย

การลงแข่งขันของ เบคแฮม ติด 1 ใน 4 คน ที่ลงแข่งขันยูฟ่าแชมป์เปียนส์ลีก มากกว่า 100 นัด และยังลงแข่งขันให้ทีมชาติอังกฤษมากถึง 113 ครั้ง ซึ่งรวมการแข่งขันทั้งหมดแล้วมากเป็นอันดับที่ 2 โดยตัวเขาเองเป็นชาวอังกฤษคนเดียวที่สามารถทำ 3 ประตู ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 1998, 2002 และ 2006 รวมลูกยิงที่ทำประตูให้ทีมชาติอังกฤษมากถึง 17 ประตู

เบคแฮม เป็นนักเตะในตำนานที่สร้างชื่อเสียงดังระดับโลก ทำให้วงการฟุตบอลจับตามองอย่างมาก ด้วยลูกเตะ “ฟรีคิก” แม่นเหมือนจับวาง โดยทีมที่สร้างชื่อให้เขาก็คือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (Manchester united) ด้วยกันปั้นให้เป็นตัวโยนบอลที่อันตรายที่สุด

เดวิด เบคแฮม ได้ตัดสินใจและประกาศถอนตัวจแคากวงการฟุตบอลในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 หลังจากได้ลงเตะให้กับทีม ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ใน ลีก เอิง ฝรั่งเศส ฤดูกาลแข่งขัน 2012-2013

ประวัติ เดวิด รอเบิร์ต โจเซฟ เบคแฮม

เดวิด เบคแฮม เกิดวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975 ประเทศอังกฤษ เมือง ลอนดอน เขตเมือง เลย์ตันสโตน ใน โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยวิพพส์ครอสส์ จบการศึกษาที่ ชิงฟอร์ด ฟาวน์ดาทีออน จากลูกช่างตัดผมธรรมดา ผันตัวเข้าสู่วงการฟุตบอลฝึกหัดที่ค่ายฟุตบอลเยาวชน สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ และได้ย้ายไปอยู่กับ เปรสตันนอร์ธเอ็นด์ หลังจากนั้นได้ไม่นานก็ได้ย้ายไปเข้าร่วมเป็นนักฟุตบอลเยาวชนของ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

ประวัติชีวิตส่วนตัวของ เดวิด เบคแฮม

เดวิด เบคแฮม แต่งงาน กับ นักร้องสาววง สไปซ์ เกิร์ลส วิคตอเรีย อดัมส์ ในวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1999 ทำให้สื่อข่าวให้ความสนใจความสัมผัสของคู่นี้อย่างมาก เบคแฮม มีลูกกับ วิคตอเรีย อดัมส์ 4 คน ได้แก่ บรุคลิน โจเซฟ เบคแฮม, โรมีโอ เจมส์ เบคแฮม, ครูซ เดวิด เบคแฮม และ ฮาร์เปอร์ เซเว่น ซึ่งเป็น ชาย 3 คน เป็น หญิง 1 คน

ประวัติในวงการฟุตบอลของ เดวิด เบคแฮม

เดวิด เบคแฮม ได้เข้าร่วมกับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1991 ด้วยความสามารถพิเศษที่ตัวเขามีจึงสามารถพาทีมคว้าแชมป์ในการแข่งขัน เอฟเอ คัพรุ่นเยาวชน ในเดือน พฤษภาคม ค.ศ 1992 ด้วยความสามารถของตัวเขาจึงมีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขัน ลีค คัฟ ครั้งแรก ในวันที่ 23 กันยายน ค.ศ.1992 และในวันที่ 23 มกราคม ค.ศ.1993 เดวิด เบคแฮม ได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

เพรสตันนอร์ทเอนด์ยืมตัว

ในการแข่งขันฟุตบอล ในฤดูกาล 1994-1995 เพรสตันนอร์ทเอนด์ ได้ทำสัญญายืมตัว เดวิด เบคแฮม ไปเล่นเป็นตัวจริงครั้งแรก ถือว่าเกินคาดเพราะเค้าได้ทำประตูในการแข่งขันครั้งนั้น ด้วยการเตะมุม แต่ลูกบอลเข้าประตูไปได้อย่างสวยงาม ทำให้ชื่อของเขาโด่งดังอย่างมากในยุคนั้น

ลงแข่งขันเป็นตัวจริง แมนยูไนเต็ด

ในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ.1995 เดวิด เบคแฮม ได้กลับมาเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ฐานะตัวจริง ในการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก ด้วยการลงเล่นกับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรก อาจจะดึงความสามารถออกมาไม่เต็ม จึงทำให้การแข่งขันจบลงด้วย สกอร์ 0-0

การแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2006

ในการแข่งขันฟุตบอลโลก เดวิด เบคแฮม ได้เป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูให้ทีมชาติอังกฤษ ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 ครั้ง ถือว่าเป็นนัดที่หน้าจดจำสำหรับทีมชาติอังกฤษ แต่ก็เป็นเรื่องหน้าเศร้าที่เขาบาดเจ็บในนัดการแข่งขันปะทะกับทีมชาติ โปรตุเกส จึงถูกเปลี่ยนออกในครึ่งหลัง ทำให้พ่ายแพ้ โปรตุเกส ในการแข่งขันครั้งนั้น

เมื่อทีมชาติอังกฤษตกรอบการในการแข่งขันฟุตบอลโลก เดวิด เบคแฮม ได้ถอนตัวจากการเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ เพื่อให้โอกาสนักเตะรุ่นใหม่ขึ้นมารับตำแหน่งกัปตันแทน

ค้าแข้งกับแอลเอ แกแลกซี

เมื่อหมดยุคของ กาลักติโกส เดวิด เบคแฮม ได้ตัดสินใจเซ็นสัญญากับ แอลเอ แกแลกซี สโมสรเมเจอร์ลีก เป็นเหตุทำให้ สหรัฐอเมริกา หันมารับชมกีฬาฟุตบอลกันมากขึ้น โดยการที่ย้ายมาสโมสรเมเจอร์ลีก เขาได้รับค่าเหนื่อยสูงถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ตีเป็นเงินประมาณ 15,000,000 บาท แม้จะได้รับค่าเหนื่อยมากแค่ไหน แต่ เดวิด เบคแฮม ไม่ได้พึ่งพอใจกับเล่นกับ สโมสรเมเจอร์ลีก เท่าไหร่ เขาได้เปรียบเทียบว่า การเล่นกับ เมเจอร์ลีก เหมาะสำหรับดารา ซึ่งหากเปรียบเทียบกับการเล่นฟุตบอลอาชีพที่แท้จริง มันแตกต่างกันอย่างมาก จากการที่สโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน ทำสัญญายืมตัว เมื่อเค้าได้ลงไปเล่นแล้วทำให้เขาอยากกลับไปเล่นกับ สโมสรใหญ่ เหมือนเช่นเคย

สโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน

ครึ่งหลังฤดูกาลปี 2008-2009 เอซี มิลาน ได้ทำสัญญายืมตัว เดวิด เบคแฮม ซึ่งทำให้เขาได้โชว์ความสามารถได้เยอะขึ้น ซึ่งทุกประตูที่เกิดขึ้น เบคแฮม มีส่วนร่วมกับทุกลูกและสามารถช่วยให้ เอซี มิลาน ได้รองแชมป์ ในลีกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา

เดวิด เบคแฮม มีความต้องการที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน ฟุตบอลโลก กับทีมชาติอังกฤษ จึงพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเล่นกับทีมใหญ่อย่าง เอซี มิลาน เพื่อเร่งสร้างผลงานให้โดดเด่น ซึ่งเขาคิดว่าการที่เขาเล่นให้กับ เมเจอร์ลีก ไม่สามารถที่จะสร้างผลงานออกมาให้ดีได้ เพราะเหตุนี้จึงทำให้ตัวเขา เล่นให้กับ เอซี มิลาน ทีมยักษ์ใหญ่ ใน อิตาลี อยู่เรื่อยมา จึงส่งผลให้ตัวของเขา มีปัญหากับ แอลเอ แกแลกซี แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่จึงสามารถเคลียกันได้ลงตัวและสิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นมา สัญญายืมตัวที่ทำไว้กับ เอซี มิลาน ได้หมดลง ในฤดูกาล 2008-2009 ทำให้ แอลเอ แกแลกซี ได้ดึงตัวของ แบ็คแฮม กลับมาทันที และหลังจากที่หมดสัญญากับ สโมสรเมเจอร์ลีก เค้าก็ได้กลับไปเล่นให้กับ เอซี มิลาน อย่างเต็มตัว

ร่วมเล่นกับทีมปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ก่อน แขวนสตั๊ด

29 มกราคม ค.ศ. 2013 เบคแฮม ได้เข้าร่วมฝึกซ้อมกับ สโมสรใหญ่ อย่าง อาร์เซนอล ทำให้สื่อข่าวต่างๆ ได้เขียนข่าวออกไปว่า อาร์เซนอล จะเซ็นสัญญากับตัวเค้า แต่แท้จริงแล้วเป็นเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น ซึ่ง อาร์แซน แวงแกร์ กุนซืน อาร์เซนอล จึงได้ออกมากล่าวกับสื่อข่าวว่า เหตุที่ให้ เบคแฮม มาฝึกซ้อมกับสโมสรอาร์เซนอล นั้น เพียงแค่ให้เขา ฝึกทักษะและสภาพร่างกายเท่านั้น ไม่มีการเซ็นสัญญาแต่อย่างใด

สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง จึงเห็นช่องทางดึงตัว เบคแฮม มาร่วมทีม ซึ่ง 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 มีการเซ็นสัญญาค่าตัวของตัวเขาในราคา 25ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท หลังจากเค้าได้เข้ามาร่วมทีมไม่นาน ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เดวิด เบคแฮม ได้ลงแข่งขันนัดสำคัญและพาทีม ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง คว้าแชมป์ลีกเอิง ได้สำเร็จ

หลังจากที่ เดวิด เบคแฮม ได้เล่นบอลอาชีพมานานกว่า 10 ปี จึงได้ตัดสินใจประกาศต่อสื่อข่าว ในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 จะแขวนสตั๊ดและเลิกเล่นบอลอาชีพอย่างเป็นทางการ

ก่อนที่ เดวิด เบคแฮม จะถอนตัวจากวงการฟุตบอล ได้ลงเล่นนัดสุดท้ายให้กับ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 โดยการลงเล่นนัดสุดท้ายของเค้า ทำให้ การ์โล อันเชลอตตี ให้เค้าได้ลงเป็นตัวจริงและยกให้เป็นกัปตันทีม แม้เค้าจะถูกเปลี่ยนออกในครึ่งหลัง แต่ทีมก็ได้คว้าชัยชนะในการแข่งขันนัดสำคัญนี้ไปได้ พร้อมคว้าแชมป์ลีกเอิง ทำให้การเล่นฟุตบอลของเค้าจบลงได้อยู่สวยงาม ซึ่งเป็นนักเตะชาวอังกฤษคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาได้ถึง 4 ประเทศ คือ สเปน, อังกฤษ, ฝรั่งเศสและอิตาลี

เกียรติประวัติ เดวิด เบคแฮม ทั้งหมด

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
• ได้รับรางวัล Premier League ในฤดูกาล 1995-1996, 1996-1997, 1998-1999, 1999-2000, 2000-2001, 2002-2003
• ได้รับรางวัล FA Cup ในฤดูกาล 1995-1996, 1998-1999
• ได้รับรางวัล UEFA Champions League ในฤดูกาล 1998-1999
• ได้รับรางวัล Intercontinental Cup ในฤดูกาล 1999
• ได้รับรางวัล FA Community Shield ในฤดูกาล 1993, 1994, 1996, 1997
• ได้รับรางวัล FA Youth Cup ในฤดูกาล 1991, 1992
เรอัลมาดริด
• ได้รับรางวัล LaLiga ในฤดูกาล 2006-2007
• ได้รับรางวัล Supercopa de España ในฤดูกาล 2003-2004
แอลเอ แกแลกซี
• ได้รับรางวัล MLS Supporters’ Shield ในฤดูกาล 2010, 2011
• ได้รับรางวัล MLS Cup ในฤดูกาล 2011, 2012
• ได้รับรางวัล MLS Western Conference
รางวัลย่อย
• ได้รับรางวัล Winners (Regular Season) ในฤดูกาล 2009, 2010, 2011
• ได้รับรางวัล Winners (Playoffs) ในฤดูกาล 2009, 2011, 2012
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
• ได้รับรางวัล Ligue1 ในฤดูกาล 2012-2013
ทีมชาติอังกฤษ
• ได้รับรางวัล Tournoi de France ในฤดูกาล 1997
• ได้รับรางวัล FA Summer Tournament ในฤดูกาล 2004
รางวัลส่วนบุคคล
• ได้รับรางวัล Premier League Player ประจำเดือน สิงหาคม 1996
• ได้รับรางวัล PFA Young Player of the Year ในฤดูกาล 1996-1997
• ได้รับรางวัล FWA Tribute Award ในฤดูกาล 2008
• ได้รับรางวัล Sir Matt Busby Player of the Year ในฤดูกาล 1996-1997
• ได้รับรางวัล UEFA Club Footballer of the Year ในฤดูกาล 1998-1999
• ได้รับรางวัล UEFA Club Midfielder of the Year ในฤดูกาล 1998-1999
• ได้รับรางวัล Premier League 10 Seasons Awards ในฤดูกาล 1992-1993, 2001-2002
รางวัลย่อย
• รางวัล Domestic & Overall Team of the Decade
• รางวัล Goal of the Decade vs Wimbledon 17 สิงหาคม 1996
• ได้รับรางวัล UEFA Team of the Year ในฤดูกาล 2003
• ได้รับรางวัล Real Madrid Player of the Year ในฤดูกาล 2005-2006
• ได้รับรางวัล PFA Team of the Year ในฤดูกาล 1996-1997, 1997-1998, 1998-1999, 1999-2000
• ได้รับรางวัล BBC Sports Personality of the Year ในฤดูกาล 2001
• ได้รับรางวัล FIFA 100
• ได้รับรางวัล ESPY Award – Best Male Soccer Player ในฤดูกาล 2004
• ได้รับรางวัล ESPY Award – Best MLS Player ในฤดูกาล 2008
• ได้รับรางวัล English Football Hall of Fame ในฤดูกาล 2008
• ได้รับรางวัล BBC Sports Personality of the Year Lifetime Achievement Award ในฤดูกาล 2010
• ได้รับรางวัล MLS Comeback Player of the Year Award ในฤดูกาล 2011
• ได้รับรางวัล Major League Soccer Best XI ในฤดูกาล 2011
รางวัลพิเศษ
• ได้รับรางวัล Officer in the Order of the British Empire by Queen Elizabeth II ปี 2003
• ได้รับรางวัล United Nations Children’s Fund ( UNICEF ) Goodwill Ambassador ปี 2005-2019
• ได้รับรางวัล Britain’s Greatest Ambassador – 100 Greatest Britons awards
• ได้รับรางวัล The Celebrity 100, number 15 Forbes ปี 2007
• ได้รับรางวัล Number 1 on the list of the 40 most influential men under the age of 40 in the UK Arena ปี 2007
• ได้รับรางวัล Time 100 ปี 2008
• ได้รับรางวัล Gold Blue Peter Badge winner ปี 2001
• ได้รับรางวัล Do Something Athlete Award ปี 2011